โดย...   อาจารย์แอน (ษณอนงค์ คำแสนหวี)

ไปตรวจดูทำเลบ้านหลังหนึ่งที่เจ้าของบ้านบอกว่า นับตั้งแต่ย้ายมาอยู่บ้านหลังนี้  เกิดการเจ็บไข้ได้ป่วยเยอะมาก รวมทั้งเกิดอุบัติเหตุกับคนในบ้าน สัตว์เลี้ยงก็ตายด้วย  เรียกว่ามีอะไรหลายๆอย่างที่ทำให้เศร้าหมอง มันเกิดอะไรขึ้น จะต้องมีอะไรที่ผิดปกติไปจากเดิม ด้วยเหตุนี้ อาจารย์แอนจึงได้ไปปรากฏตัวที่บ้านหลังนี้

เขาบอกว่า “อาจารย์แอนคะ เมื่อย้ายเข้าไป ก็เริ่มเกิดเลยจากเรื่องเล็กๆไปจนถึงเรื่องใหญ่ๆ  เช่น  ปลาตาย  คนรับใช้ลาออก คนในบ้านทะเลาะกัน  แตกแยกกัน  คุยกันไม่รู้เรื่อง มีอะไรที่ผิดไปจากชีวิตประจำวันหรือบ้านเดิมที่เคยอยู่  ไปในทางที่ไม่ดี  ”

ก็ตอบไปว่า เป็นไปได้จากหลายๆสาเหตุ 

ประการแรก

ที่ต้องเข้าดูก่อนเลยคือการตั้งพระถูกต้องหรือเปล่า  การตั้งตำแหน่งพระ ให้ความเคารพขนาดไหน 

ปรากฏว่าบ้านหลังที่ไปนี้ ตั้งพระถูกต้องแต่ไม่สะอาด ก่อนอื่นเราต้องไม่ลืมว่า พระพุทธรูปเปรียบเสมือนอุเทสิกเจดีย์ ต้องหมั่นทำความสะอาด  ถ้าหากว่ามีกลิ่นหรือว่าจัดไม่เหมาะสมกับที่ว่า เพื่อยังผู้ศรัทธาน้อยให้ศรัทธามากขึ้น ถ้าไม่จัดอย่างนั้นเหตุการณ์ที่เขาเล่ามาก็ยังจะเกิดต่อไป  ความไม่เป็นมงคลทั้งหลายก็จะเข้ามาสู่ตัวบ้าน

เมื่อพูดถึงความไม่เป็นมงคล เราก็เอามงคล 38  ประการมาเปรียบเทียบเลยค่ะ  เช่น บัณฑิตไม่มาสู่ เราก็กลายเป็นเจอแต่คนพาล  เรารู้สึกว่าเราถูกคนจ้วงจาบเพราะว่าเราไม่เคารพพระพุทธ พระธรรม พระสงฆ์เพียงพอ แล้วก็อาจจะเลยเถิดว่า ทำให้เราไม่มีเวลาไปดูพ่อแม่ด้วย  การงานเราก็กลายเป็นคั่งค้าง ทำอะไรก็ไม่เสร็จสักที อันนี้คือความไม่เป็นมงคลที่เกิดจากการตั้งพระที่ไม่ถูกต้อง 

เมื่อการงานคั่งค้าง วินัยไม่มี  นอนตื่นสาย  นอนดึก  การเจ็บไข้ได้ป่วยก็ตามมา ความหงุดหงิดก็ตามมา เมื่อเราไม่อ่อนน้อม คนอื่นยกตนข่มท่านใส่เรา  สิ่งเหล่านี้เกิดขึ้นเพราะมงคล 38 ประการหายไป  พอมีคนแปลกหน้ามาเข้าบ้าน หรือว่าเราเอาใครมาพักที่บ้าน ของหายอีก  เจ้าของบ้านก็รับว่า พอย้ายมาบ้านหลังใหม่ ข้าวของหายเป็นประจำ และเมื่อไม่มีวินัย บ้านเราก็รกอีก  ทั้งหมดนี้ คือสาเหตุจากการตั้งพระอย่างเดียว ดังนั้น จะตรวจดูก่อนเลยค่ะ  ตั้งพระถูกต้องไหม ทำความสะอาดพระแล้วหรือยัง  หรือว่ามีสิ่งสกปรกอยู่ใกล้ๆนั้น  หรือว่าตั้งอยู่ใกล้กับสิ่งสกปรก

ประการที่ 2

ที่จะต้องตรวจดูคือ ต้นไม้ในบ้าน

ต้นไม้ที่มีอยู่ในบ้าน ถ้าเป็นต้นไม้ใหญ่ที่มีการร่วงโรยอย่างสม่ำเสมอ เรียกว่า ปีหนึ่งร่วงอยู่สัก  6  เดือน แสดงว่าบ้านหลังนั้นเกิดสภาวะ หยิน คือ ปกติเวลาเราปลูกต้นไม้ มันจะมีเนิน  เมื่อมีใบไม้ร่วงอยู่ตลอดเวลา  ก็จะเกิดการเจ็บไข้ได้ป่วย เขาเรียกว่า หยินทำลายหยาง  ทำลายความเขียวของต้นไม้กลายเป็นความแห้งและตายถึง  6  เดือนด้วยกัน 

ถ้าหากว่าถึงฤดูกาลที่ใบไม้ร่วงหล่นแค่เดือนเดียวก็ยังไม่เป็นไร  เพราะถือว่าเท่ากับแค่เสียไป  10%  แต่ว่าถ้า  50:50  อย่างนี้ถือว่าจะเกิดการเจ็บไข้ได้ป่วย  ทะเลาะกัน  หดหู่  เศร้าหมอง  ของแตกของหาย  การงานมีปัญหา และทำอะไรแล้วจะถึงจุดจบก่อนที่จะประสบผลสำเร็จ นี่คือความหมายของใบไม้ร่วงซึ่งเป็นเรื่องอย่างที่สองที่จะต้องตรวจดู

ประการที่สาม

บริเวณบ้านทุกแห่งเราใช้หรือเปล่า หรือว่าเข้าบ้านมาแล้วฉันใช้อยู่แห่งเดียวคือห้องนอน  เพราะฉันหัวซุกหัวซุนเข้าห้องนอน 

บางห้อง ว่าง  เราทิ้งไว้เลยและก็รกเพราะเอาของโยนไปก่อน  เนื่องจากไม่เคยจัดบ้าน  พอไม่จัดบ้าน สิ่งที่จะนำกระแสสิ่งที่ไม่ดีเข้ามาคือ  พวกหนู  กิ้งกือ  จิ้งเหลน  มันจะดึงกระแสแบบเดียวกันมา คือกระแสของเดรัจฉาน ที่ซ่อน ที่หลบภัย อันตรายที่มองไม่เห็น  เราจะมีภัยอันตรายที่มองไม่เห็นคือ อุบัติเหตุ  นี่คือสิ่งที่เราต้องดูว่ามันมีที่หมักหมมหรือเปล่า และมีในที่ที่เราไม่ได้ใช้ไหม

ประการที่ 4

ดินทรุด  หินแตก  ลานแตก  กระจกแตก  กระจกส่องแล้วไม่เห็นหัว กระจกแตกค้างเอาไว้ มีบางจุดที่ไฟดับแล้วไม่ได้แก้ไข ทั้งหมดนี้เป็นเรื่องของรายละเอียดแล้ว หากมีดินทรุด  กระเบื้องที่วางไว้แตก  สีถลอก  สิ่งเหล่านี้จะบอกหมด  ทั้งๆที่เป็นบ้านใหม่แต่ว่ามีของแตกหัก  ที่เราอาจจะไม่ได้สังเกตเห็นเพราะว่าเราใช้พื้นที่น้อย ทุกอย่างมันก็เลยทรุดโทรมไปตามกาล

ต่อมาก็จะต้องตรวจดูข้าวของว่า ของใดที่เก่าแล้วก็สมควรเอาออก ยกตัวอย่างเช่น ของขวัญวันขึ้นบ้านใหม่ เราอยู่มาเป็นปีแล้ว ของนั้นก็ยังอยู่  ดังนั้น เราควรจะต้องจัดบ้านใหม่ทุกปีเพื่อให้ดูสดชื้นและสดใส ของใดที่เก่าเก็บก็เอาออกไป

ประการที่ 5

เข้าบ้านมาแล้วเจออะไรก่อน ไม่ว่าจะเป็นประตูเล็กประตูน้อย  ปกติคนทั่วไปจะมีสองประตู  คือ ประตูใหญ่ และประตูโรงรถ  ทั้งสองประตูเราเข้ามาแล้วเจออะไรก่อน  หรือลงบันไดก่อนออกจากบ้านเราเจออะไรก่อน เหมือนกับเดินจากห้องนอนลงบันไดมา หรือว่าเปิดจากห้องนอนแล้วเจออะไรก่อน สมมติว่า เปิดจากห้องนอนมาเจอประตูห้องน้ำและเปิดทิ้งไว้เจอซักโครก อันนี้ท้องเสียบ่อยประจำ 

ลงบันไดบ้านมาเราเจออะไร  เช่น เจอชั้นวางรองเท้า ขยะ  อารมณ์เสียตลอดวัน และจะเจอสิ่งหมักหมม ทำอะไรก็คั่งค้าง 

ทั้งหมดนี้คือสาเหตุ 

แต่บางคนไปให้ความสำคัญกับสิ่งเล็กน้อยเช่น อาจารย์แอนครับ ตั้งแต่ผมซื้อเก้าอี้ใหม่เข้ามา  มันเกิดเหตุเยอะแยะเลย ผมเกิดอุบัติเหตุ  ที่จริงแล้ว มีเหตุมาแล้วอย่างที่อธิบายมา แต่ว่าบังเอิญมาเกิดตอนที่เอาอะไรแปลกปลอมเข้ามาในบ้าน

หรือบางคนก็บอกว่า เป็นเพราะผมนอนหัวเตียงย้ายไปรอบทิศแล้วหรือเปล่าครับอาจารย์แอน ถึงได้เกิดเหตุตลอดเวลา ไม่เกี่ยวนะคะ  หัวเตียงเป็นแค่องค์ประกอบ หลังจากที่เราจัดโครงสร้างทุกอย่างที่พูดมาทั้งหมดเรียบร้อยแล้ว  ถึงจะไปดูดวงชะตาว่าที่เขานอนอยู่นั้นเป็นอย่างไร  สมมติว่าเขามีธาตุน้ำเยอะ  พอนอนในตำแหน่งที่มีธาตุน้ำเยอะอีก ก็มีผลทำให้เขาป่วยง่าย    เป็นหวัดบ่อย  หรือว่าดื้อรั้นมีความเห็นที่ผิด ก็เพราะมีธาตุมากจนเกินไป มีผลแค่นั้นเอง  ไม่ได้กระทบกระเทือนถึงเหตุการณ์ใหญ่โตอะไร  เพราะฉะนั้นหัวเตียงจะมาเป็นอันดับสุดท้าย 

หลังจากนั้นเราไปดูเตาไฟในครัวเป็นอย่างไร  มีขยะในครัว หรือว่าในครัวนั้นมีน้ำสาด ก็คือ การปะทะกันระหว่างน้ำกับไฟ  นี่จะเป็นตัวที่จะบอกต่อไป 

 นอกจากนี้ สิ่งที่จะส่งเสริมให้ดีหรือไม่ดีอีกอย่างหนึ่ง  คือ  กลิ่นภายในบ้าน  เช่น  กลิ่นท่อ  เลี้ยงสัตว์ก็มีกลิ่นคาวของสัตว์ อันนี้เราอาจจะไม่รู้  ฉะนั้น เราก็ต้องเปิดบ้านให้แสงเข้า นี่คือการปรับทำเลแก้ไขทั้งหมดถ้าเกิดว่าเราไปอยู่บ้านและเกิดสิ่งที่ผิดปกติเกิดขึ้นมากมาย

การย้ายบ้านแต่ละครั้ง บอกว่าจะเกิดอะไรขึ้น เพราะฉะนั้น การคอยหมั่นจัดบ้านใหม่ก็เพื่อให้สิ่งเหล่านี้มันหมด ให้มีแต่สิ่งดี ๆ เกิดขึ้นนั่นเอง