- ฮวงจุ้ยพื้นฐาน
- รูปภาพและความหมาย
- ฮวงจุ้ยสำนักงาน
- ฮวงจุ้ยที่ดิน
- ฮวงจุ้ยร้านค้า
- ฮวงจุ้ยบ้านเรือนที่อยู่อาศัย
- ข้อห้ามเกี่ยวกับการเลือกที่อยู่อาศัย
- ทำเลเสียดูอย่างไร
- ดาว ๙ ยุคคืออะไร
- ดวงจีน
- การดูลักษณะภูเขา
- กรณีศึกษาฮวงจุ้ย
- ประสบการณ์การดูทำเลของอาจารย์แอน
- คำคม..ข้อคิด
- เกร็ดความรู้จากพุทธศาสนา
- เกร็ดความรู้ที่ได้จากวรรณคดี
- บทความพิเศษ
7 ม.ค. 2557
สรุปบทความจากรายการ
"สาระจากเมืองมังกร ตอนที่ 67 ทวารบาลทั้ง 4"
ออกอากาศทาง TNN2 Truevision ช่อง 8 ทุกวันจันทร์-วันศุกร์ เวลา 20.20 - 20.30 น.
เรามาดูรายละเอียดของวัดม้าขาว ซึ่งเป็นต้นแบบของวัดอื่นๆ ของประเทศจีนสืบจนถึงปัจจุบันนี้ หากดูในลักษณะของวิชาฮวงจุ้ย ก็คือ หน้าต่ำหลังสูง ซ้ายขวาเท่ากัน ที่วัดม้าขาวก็จะมี ฝั่งมังกร ฝั่งเสือ มีหมิงถัง มีห้องโถง เรียกว่านอกจากจะเป็นแบบของฮวงจุ้ยที่ดีแล้ว ยังเป็นแผนผังของวัดที่ดีอีกด้วย แสดงถึงความมีชื่อเสียง ยิ่งอยู่ไปก็ยิ่งเจริญ วัดม้าขาวสร้างในสมัยราชวงศ์ฮั่น และปรับปรุงให้ดีขึ้นในราชวงศ์ต่อมาจนมาถึงปัจจุบัน โดยรักษาของเดิมเอาไว้ อย่างนี้แสดงว่าทำเลดี แต่อย่างไรก็ตาม เราก็ควรมาเรียนรู้ความเป็นมาของรูปปั้นที่เคารพสักการะภายในวัด
ในสมัยแรกๆ เมื่อเข้าไปด้านหน้าจะไม่มีทวารบาล จนกระทั่งถึงสมัยหลังราชวงศ์ถังไปแล้วจึงปรากฏทวารบาล เพราะฉะนั้น ในระยะแรกถึงจะไม่มีประตูแต่เป็นห้องโถงโล่ง ด้านขวาและซ้ายจะมีรูปปั้นเทพอยู่ 4 องค์ ซึ่งก็คือ ท้าวจตุโลกบาลทั้งสี่ในพุทธศาสนาหินยานของเรา ท้าวจตุโลกบาลทั้ง 4 องค์จะรักษาผู้ปฎิบัติธรรมหรือผู้นั่งสมาธิ และป้องกันมิให้สิ่งชั่วร้ายเข้ามาสู่บริเวณสถานที่ศักดิ์สิทธิ ชาวจีนเรียกสั้นๆว่า ฮวง โหว เทียว ซุ่น มีความหมายของลมและฝน ดินฟ้าอากาศที่ดี ลมฝนตกต้องตามฤดูกาล
ฮวง ก็คือ ลม เป็นรูปปั้นเทพเจ้าถือดาบ ส่วนเทพเจ้าที่ถือพิณ ที่เราเรียกว่า เทียว ความหมายของพิณคือความเหมาะสม โดยมีที่มาจากการที่ก่อนพระพุทธองค์จะบำเพ็ญเพียรในทางที่ถูก พระอินทร์มาดีดสายพิณให้ฟัง ด้วยเหตุนี้ พิณจึงแปลว่าสายกลางหรือเหมาะสม ส่วน โหว หมายถึงฝน และซุ่นแปลว่าราบรื่น เป็นเทพที่ถือเป็นงู คำว่า ซุน คืองูทะเล แต่อาจเป็นเพราะงูคงเป็นสัตว์ที่น่ากลัว จึงเปลี่ยนเป็นให้ถือเจดีย์แทน
ดังนั้น เราจะเห็นรูปปั้นเทพถือดาบ ถือพิณ และก็มีลักษณะของงู และเจดีย์ และเป็นลักษณะของเทพสายฝนก็คือยืนเฉยๆ ซึ่งรวมแล้วทั้ง 4 องค์นั้นมีความหมายว่า ฝนฟ้าตกต้องตามฤดูกาลนั่นเอง ตามความเชื่อของชาวจีนว่าถ้าหากมีเทพสี่องค์รักษาอยู่แล้วดินฟ้าอากาศก็จะดี การเพาะปลูกก็จะมีผล ดังนั้น เมื่อเข้าไปในวัด ชาวจีนจะเริ่มไหว้ตั้งแต่เดินเข้าประตูไปเลยทีเดียว เป็นการให้แสดงความเคารพ จากนั้น ก็ไหว้พระที่มีลักษณะอ้วนพี ยิ้มแย้มต้อนรับ ซึ่งที่มาที่ไปเราจะได้กล่าวถึงต่อไป
การที่ชาวจีนเข้ามาสักการะอย่างนี้ ด้านหน้าจึงจัดที่ไว้สำหรับการบำรุงวัด เป็นการให้เริ่มรู้จักการให้ทาน จะมีมากมีน้อยไม่เป็นไร แล้วก็มีฟังธรรมมีบทสวด ซึ่งบทสวดนี้เกิดขึ้นครั้งแรกในสมัยปลายราชวงศ์ฮั่น คนแต่ง ก็คือ โจสิด แต่งบทสวดเป็นทำนอง รวมทั้งบทสวดอื่นๆ อีกด้วย แม้แต่การบวชก็มีขึ้นครั้งแรกในสมัยของ โจสิด หรือโจผี ซึ่งคือในสมัยสามก๊ก
ในระยะแรกนั้นยังไม่มีการอนุญาตให้บวช อาจเป็นเพราะว่ายังไม่แน่ใจว่าการปฏิบัตินั้นถูกต้องหรือไม่ ต่อมาเมื่อมีบทบัญญัติสงฆ์และพิธีการต่างๆ เพื่อให้พระพุทธศาสนานั้นปักหลักและมั่นคง ดังนั้น การบวชครั้งแรกจึง เกิดขึ้นปลายราชวงศ์ฮั่นนี่เอง